วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อารัมภบท (พี่ออย & น้องภาม)

อารัมภบท (พี่ออย & น้องภาม)

เพล้ง!
ภาม! ไอ้ภาม!!” เสียงของตกแตกตามด้วยเสียงทุ้มตะโกนเรียกชื่อ ทำเอาผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนถึงกับสะดุ้งตกใจเฮือก มึงไม่ได้ยินที่กูเรียกหรือไงวะไอ้ภาม!!”
ได้ยินแล้วจ้ะ ได้ยินแล้ว!ผมตะโกนบอก ในมือปล่อยหนังสือลงบนพื้นหญ้าก่อนจะลุกขึ้นวิ่งกะเผลกเข้าไปในห้องครัว ครั้นพอเข้าไปแล้วก็เห็นร่างสูงของพ่อยืนตีหน้ายักษ์เหี้ยม
มัวทำซากอะไรอยู่ ทำไมไม่ทำอาหารให้พวกกูกิน!”
หนูกำลังอ่านหนังสือเรียนอยู่จ้ะพ่อผมก้มหน้าพูด ไม่อยากเห็นสีหน้าคุณพ่อเลยครับ น่ากลัวอย่างกะอะไรดี เดี๋ยวหนูจะทำให้…”
ไม่ต้อง! จะไปไหนก็ไปไป๊!!”
จ้ะพ่อผมตอบและกำลังจะหมุนตัวเดินกลับออกไปข้างนอกเพื่ออ่านหนังสือต่อ
“เดี๋ยว!
“จ้ะพ่อ? เรียกหนูทำไมเหรอจ๊ะ” ผมหมุนตัวกลับแต่กลับโดนอีกฝ่ายตบแก้มขวาอย่างแรง
เพียะ!
!!!!!!!
“จ้ะเจ๊อะบ้านมึงดิ ใครสั่งใครสอนให้มึงพูดแบบนั้น ลูกผู้ชายต้องพูดครับสิวะ!
“แต่คุณน้าข้างบ้านบอกว่า...” ผมพูดยังไม่ทันจบ ก็ต้องรีบหุบปากเพราะอีกฝ่ายทำท่าจะเข้ามาตบหน้าผมอีกครั้ง “...ก็ได้ครับคุณพ่อ หนูจะไม่พูด...”
เพียะ!
!!!!!!!
“ใครสั่งใครสอนให้มึงพูดแทนตัวเองว่าหนูห๊ะ!” คราวนี้ผมโดนตบที่แก้มซ้ายครับ เจ็บจังเลย ใครก็ได้ช่วยผมด้วย “จะไปไหนก็ไป! กูเบื่อที่จะฟังมึงพูดแล้วไอ้เหี้ย!
“ครับคุณพ่อ”
แล้วผมก็เดินออกไปโดยมือยังคงกุมแก้มที่โดนตบ ซึ่งมันไม่ได้เจ็บแค่ภายนอกเพียงอย่างเดียว ผมยังรู้สึกเจ็บถึงข้างในจิตใจ มันฝังลึกอยู่นานจนยากที่จะลืมเลือน ตั้งแต่จำความได้คุณพ่อไม่เคยใจร้ายกับผมแบบนี้หรอกครับ แต่พอเจออุบัติเหตุรถชนในตอนเด็กจนผมต้องเสียขาซ้ายไปข้างนั้น ทำเอาความสัมพันธ์ในครอบครัวก็พลันเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่เพียงแค่คุณพ่อที่เกลียดผมเท่านั้น ยังมีคุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และก็ทุกคนที่เป็นญาติพลอยเกลียดผมไปด้วย
เพราะมึงคนเดียวไอ้ภาม ถ้ามึงไม่พาภูมิไปด้วย ภูมิก็คงไม่ตาย!”
ทำไมคนที่ตายไม่เป็นมึงห๊ะไอ้ภาม ทำไมไม่เป็นมึง!”
มึงไม่ใช่ลูกกู กูเกลียดมึง!”
และคำด่าทออีกมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว แต่ผมก็ยังทนเรื่อยมาไม่มีบ่น หลังจากเดินออกมาแล้วผมก็เดินออกมานอกรั้วบ้านอย่างเงียบๆ ก่อนจะหยุดเดินแล้วนั่งลงกอดเข่าที่ข้างริมธารของหมู่บ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเดินออกมานอกบ้านแล้วมานั่งที่นี่ แต่หลายครั้งแล้วที่ผมทะเลาะกับคนในบ้านแล้วหนีออกมาที่นี่ ตอนออกมาใหม่ๆ ผมโดนทั้งพ่อทั้งแม่ตบเพราะพวกท่านที่คิดว่าผมจะฆ่าตัวตาย (คนแถวบ้านมาบอกพวกท่านนะครับ) แต่จริงแล้วไม่ใช่ครับ ผมแค่ยืนร้องไห้เฉยๆ ไม่ได้คิดฆ่าตัวตายเลยซักนิด
กูอายชาวบ้าน ฉะนั้นแกห้ามคิดฆ่าตัวตายอีกล่ะ!”
บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย
คิดอะไรอยู่คนเดียวครับน้องภามอยู่ๆก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นบนหัว ทำเอาผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นใบหน้าคมแลดูอ่อนโยนกำลังก้มหน้าส่งยิ้มมาให้ผม ซึ่งคนพูดอยู่นี้ไม่ใช่ใครนอกเสียจากพี่ออย พี่ชายข้างบ้านที่ผมเคยเล่นด้วยตั้งแต่เล็ก แล้วนี่ทานข้าวเช้าหรือยังเอ่ย
พี่ออยใจดีจัง
“ทานแล้วฮะพี่ออย” ผมไม่อยากให้พี่ออยเป็นห่วงจึงพูดโกหกไป แต่ดูเหมือนไม่สำเร็จนะครับ เพราะอีกฝ่ายเล่นเดินลงมานั่งข้างกายผมก่อนจะเอาสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านหลังออกมา ซึ่งเป็นข้าวปิ่นโตสี่ชั้นครับ “โธ่พี่ออย หนูบอกแล้วไงว่า...”
“อย่ามาโกหกพี่ พี่รู้หรอกนะว่าเรายังไม่ได้ทานข้าวเช้า” อีกฝ่ายบอกพูดเสียงดุใส่ ก่อนจะแกะปิ่นโตออกมาวางบนพื้นด้านหน้าที่ผมนั่งอยู่ เผยให้เห็นกับข้าวหลายอย่างส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ “มามะ มานั่งทานกับพี่ดีกว่า ดูสิวันนี้พี่อุตส่าห์ตื่นแต่เช้าทำอาหารให้เราทานเองกับมือ เชิญทานได้ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“แต่...”
“แต่อะไรครับน้องภาม หรือน้องอยากจะให้พี่ป้อนล่ะหืม?” ไม่พูดเปล่าเพียงอย่างเดียว ยังก้มหน้ามาใกล้ผมซะชิดจนหน้าผมแทบร้อนผ่าวไปหมดแล้วครับ ฮะๆ พี่ล้อหนูเล่นนะ รีบทานเถอะ เดี๋ยวมันหายร้อนแล้วจะไม่อร่อยนะ
ฮะพี่ออยผมตอบก่อนจะหยิบช้อนตักอาหารเข้าปาก เนื่องจากถูกตบที่แก้ม ทำให้การเคี้ยวอาหารเป็นอะไรที่ยากเหลือเกิน แต่ในขณะที่ผมกำลังเคี้ยวอาหารอยู่นั้น มือหนาก็เข้ามาลูบแก้มผมเบาๆ แน่นอนครับว่าทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง เพราะมันยังเจ็บแก้มอยู่นี่ครับ (โดนตบมาหมาดๆเอง)
เจ็บมากหรือเปล่าร่างหนาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ดีว่าผมมักจะโดนคุณพ่อคุณแม่ตบตีร่างกายประจำ ก็เล่นส่งเสียงซะดังขนาดนั้น แถมบ้านพี่ออยก็อยู่ติดกับบ้านของผมด้วย มีหรือที่จะไม่ได้ยินนะครับ ซึ่งผมได้แต่ส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ ปากแข็ง เจ็บก็บอกว่าเจ็บเถอะ
หนูชินแล้วฮะพี่ออยชินแล้วฮะ โดนตบประจำ ถ้าวันไหนไม่โดนนี่ก็มหัศจรรย์มากแล้วครับ
แต่พี่ไม่ชอบนั่นสินะ ใครจะไปชอบ ถ้าเป็นผม ผมก็คงทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ตัวเองรู้จักโดนพ่อแม่ทำร้ายร่างกายได้ทุกวัน เอางี้ ภามย้ายมาอยู่กับพี่ไหมล่ะ
!!!!!!!
พี่ออยพูดล้อหนูเล่นหรือฮะผมถามกลับไปอย่างขำๆ เพราะเขามักจะพูดหยอกล้อผมเล่นเสมอ
พี่ไม่ได้พูดล้อเล่น พี่พูดจริงร่างหนาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ก่อนจะจับมือผมขึ้นไปแนบกับริมฝีปากของตัวเอง พี่ทนไม่ได้ที่เห็นภามเจ็บ ทนไม่ได้ที่เห็นภามโดนทำร้ายร่างกายทุกวัน เพราะฉะนั้น…”
เพราะฉะนั้น?
มาเป็นแฟนกับพี่เถอะนะภาม
!!!!!!!

ปล.เปลี่ยนเนื้อเรื่องนิดหน่อยจ้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น