วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตอนที่ 45 สู้ๆ

ตอนที่ 45 สู้ๆ

หลังจากคุณพ่อคุณแม่ไปเอายามาให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว (พวกท่านก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อ) ทำให้ตอนนี้เหลือแต่พวกผมกับพวกพี่ออยที่ยังคงอยู่ (รอพี่ซีนั่นแหละครับ) จะว่าไปจนป่านนี้ผมยังไม่เห็นพี่ซีเดินกลับเข้ามาในโรงพยาบาลเลยครับ พอคิดได้ดังนั้นผมก็หยิบมือถือกดโทรหาพี่ซีทันที แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่รับสายผมเลยซักนิด
มีอะไรเหรอเรน ทำหน้าคิ้วขมวดเชียว รินพูดพลางใช้นิ้วกดระหว่างหัวคิ้วผมเล่น
ก็พี่ซีนะสิ ไม่ยอมรับสาย
สงสัยเข้าห้องน้ำท้องเสียมั้งรินพูดแซวเล่นขำๆ หรือไม่ก็ออกไปซื้อข้าวมาให้พวกเราก็ได้ มันเลยเที่ยงไปแล้วนี่ ทุกคนยังไม่ได้ทานข้าวเลยไม่ใช่เหรอ
อืม นั่นสินะผมพูดอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ แต่แล้วผมก็เห็นร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาตรงที่ผมลิ่วๆ
นั่นไง พูดถึงก็มาพอดีรินพูดยิ้มๆ แต่พี่ซีไม่ได้มีของกินติดมือกลับมาตามที่ผมกับรินเข้าใจ
พี่ซีไปไหนมาฮะ ผมโทรหาแล้วไม่ยอมรับสายผมถามด้วยความสงสัย ทว่าร่างสูงไม่ตอบ กลับย่อตัวนั่งลงโดยเอาขาอีกข้างหนึ่งชันเข่าขึ้นมาคล้ายกับท่าอัศวินรับดาบจากพระราชายังไงยังงั้น แน่นอนว่าทำเอาผมที่ยืนอยู่ถึงกับตกใจ (ทุกคนก็ตกใจเหมือนกับผมครับ) พี่ซี พี่คิดจะทำอะไรนะ
พี่ซีไม่ตอบเดี๋ยวนั้น กลับล้วงอะไรบางอย่างในกระเป๋าขึ้นมา เป็นกล่องสีแดงกำมะหยี่ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ แล้วพี่ซีก็เปิดฝามันขึ้นมา แลเห็นแหวนวงหนึ่งขนาดเล็กมีสีทองดูเกลี้ยงเกลาไม่หวือหวา
อย่าบอกนะว่า...
มันอาจจะดูไวไปซักนิดที่มาพูดในตอนนี้ แต่ผมไม่อยากเสียคุณไปเพราะคุณพ่ออีก ฉะนั้น...พี่ซีพูดพลางส่งยิ้มมาให้ผม “....ที่รัก กรุณาแต่งงานกับผมเถอะนะครับ
!!!!!!
วิดวิ้ว! แจ่มไปเลยนะมึงไอ้ซี พวกเพื่อนพี่ซีผิวปากพูดอย่างพอใจเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
ตอบเลยเรน ตอบเลยๆไอ้พวกหนึ่งแม่งช่างยุผมซะจริง ซึ่งไม่เว้นกระทั่งรินที่บ้ายุตามกับพวกมันไปด้วย ส่วนไอ้บอยหรือครับ มันหัวเราะหึเลย (กับพี่บาสอ้าปากค้าง)
ตะ…แต่คุณพ่อพี่ซี…”
ที่รักไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง พี่ซีตอบด้วยน้ำเสียงเว้าวอน นะครับที่รัก เชื่อผมสิ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง
ผมหันซ้ายแลขวามองทุกคน ซึ่งทั้งพวกไอ้หนึ่งทั้งพวกพี่ออยต่างยืนลุ้นรอคำตอบจากปากผมกันทั้งนั้น ไม่เว้นกระทั่งรินที่ก็ยืนลุ้นไปกับเขาด้วย
จะลองเชื่อใจพี่ซีดูละกัน
ตกลงครับพี่ซี

หลังจากที่ผมขอแต่งงานกับน้องเรนไปแล้ว ผมก็ขับรถไปส่งพวกไอ้ออยกลับมหาวิทยาลัยเพราะผมจะพาน้องเรนไปหาพ่อที่บ้านเพื่อเคลียร์เรื่องทั้งหมด ซึ่งพวกมันก็เข้าใจดีแล้วอวยพรให้ผมกับน้องเรนโชคดี ระหว่างผมขับรถพาน้องเรนกลับบ้าน มีน้องบอยกับไอ้บาสนั่งตามมาด้วยครับ (เดี๋ยวก็รู้ครับว่าผมพาสองคนนี้มาทำไม) ร่างบางกลับลุกลี้ลุกลนจนผมต้องเอื้อมมือไปจับมือบางที่บัดนี้มีแหวนสีทองของผมอยู่บนนิ้วนางซ้ายบีบเบาๆเพื่อให้คลายกังวล
ไม่ต้องกลัวนะครับที่รัก มันจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี
“ครับพี่ซี” เมื่อไปถึงบ้านผมก็จูงน้องลงรถเดินเข้าไปในบ้านโดยมีน้องบอยกับไอ้บาสเดินตามหลังมา ก่อนจะตรงไปยังห้องรับแขก ซึ่งครั้นพอเข้าไปในห้องรับแขก ร่างบางที่ผมจูงด้วยถึงกับชะงักไปในทันที เพราะในห้องรับแขกนั้นไม่ใช่มีแค่คุณพ่อของผมที่นั่งตีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่เพียงคนเดียว ยังมีคุณแม่ของผม มีตำรวจอีกสามนาย (หนึ่งในนั้นยืนคุมผู้ชายร่างยักษ์สองคนอยู่ด้านหลังคุณตำรวจสองนาย) มีเพื่อนของคุณพ่อของผมหรือก็คือพ่อของแพรนั่งกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้ม และยัยแพรที่นั่งก้มหน้าตาตัวสั่นราวกับกลัวความผิด “พี่ซี...ผมกลัว”
“ไม่ต้องกลัวครับที่รัก คุณยังมีผมอยู่ด้วยทั้งคน” แล้วผมก็พาน้องเรนไปนั่งเก้าอี้โซฟาอีกฟากคนละฝั่งที่ยัยแพรนั่ง ส่วนน้องบอยกับไอ้บาสนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาที่ติดอยู่ข้างกัน แล้วคุณพ่อของผมก็เริ่มเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“ฉันจะไม่ถามอะไรจากแกอีกเพราะตำรวจได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังหมดแล้ว จะเหลือก็แต่พวกเธอ มีอะไรก็เล่าให้ตำรวจฟังซะ เชิญคุณตำรวจพูดได้ตามสบายเลยครับ”
“ครับ เนื่องจากฝ่ายแจ้งความคือคุณซี ซึ่งมีทั้งพยานและหลักฐานที่เป็นวิดีโอ...”
“เดี๋ยวค่ะคุณตำรวจ ดิฉันไม่ยอม พยานก็ไม่มี หลักฐานอะไรนั่นก็แค่วิดีโอจอมปลอม สร้างขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้” ดูสิครับ ยัยแพรเถียงออกมาหน้าด้านๆเฉยเลย คงจะกลัวความผิดมั้งครับ
“ใครว่าพยานไม่มี ก็พวกกูยังไงล่ะ” ดูท่าน้องบอยจะอารมณ์เสียมากครับ ขึ้นกูมึงต่อหน้าตำรวจเลย “อย่านึกว่าเป็นลูกคนมีเงินแล้วจะรอดได้นะ ไม่มีวันซะหรอก”
“ส่วนเรื่องหลักฐานก็เป็นกล้องวิดีโอของมหาวิทยาลัยที่คุณซีได้ส่งมาให้กับพวกผมแล้วครับ” ว่าแล้วคุณตำรวจก็เปิดวิดีโอที่ต่อกับทีวีจอแบนในห้องรับแขกขึ้นมาทันที แลเห็นภาพในขณะที่ยัยแพรสั่งให้ผู้ชายสองคนจับตัวคนรักของผม ซึ่งในระหว่างที่ดู มือบางที่จับอยู่ถึงกับสั่นด้วยความกลัว ทำเอาผมต้องจับมือบางแนบแน่นมากขึ้นกว่าเดิม พอดูจนจบแล้วคุณตำรวจก็กดปิดก่อนจะหันมาทางพวกเราอีกครั้ง หลักฐานพร้อมมูลแบบนี้แล้วคุณยังจะมีอะไรแก้ตัวอีกครับคุณแพร
มะ…ไม่มีค่ะ
แล้วคุณล่ะครับ คุณตำรวจหันไปถามพ่อของยัยแพรที่นั่งกุมขมับเหมือนเดิม
ไม่มีครับ ถ้าลูกสาวผมผิดจริง ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ คนเราโกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้ ดูเหมือนพ่อของยัยแพรจะคล้ายกับคุณพ่อของผมนะครับ คือในเมื่อทำผิดก็ต้องก้มหน้ายอมรับผิด แล้วตำรวจก็จับยัยแพรกลับไปสถานีตำรวจโดยมีพ่อของยัยแพรขับรถตามไปด้วย พอเรื่องนี้จบลงแล้ว ผมก็ให้ลูกน้องที่บ้านขับรถไปส่งน้องบอยกับไอ้บาส (เพราะผมกับที่รักยังต้องมีเรื่องเคลียร์กับคุณพ่ออีก) ซึ่งก่อนไปน้องบอยยืนคุยกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับที่รักของผมก่อนจะตอบบ่าร่างบางเบาๆด้วยครับ
คุยอะไรกันเหรอครับผมถามอย่างสงสัย ซึ่งน้องเรนหันมายิ้มตอบกับผมว่า
บอยแค่ให้กำลังใจผมนะครับพี่ซี
เมื่อเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย พี่ซีก็พาผมเดินเข้าในบ้านอีกครั้งก็พบว่าคุณพ่อพี่ซีกำลังจะเดินออกมาจากห้องรับแขก คล้ายกับว่าจะออกไปข้างนอก
เดี๋ยวก่อนสิครับคุณพ่อ ผมมีเรื่องจะคุยด้วยพี่ซีบอก ซึ่งทำเอาคุณพ่อพี่ซีหยุดชะงักเดิน แล้วพี่ซีก็จับมือผมแน่นก่อนจะพูดออกไป เรื่องของแพรจบไปแล้ว จะไม่มีการหมั้นหมายอีก แถมตอนนี้ผมก็ได้ขอน้องเรนแต่งงานแล้ว…”
ก็เรื่องของแก แกมันไม่ใช่ลูกชายฉันแล้วนี่ อยากจะทำอะไรก็ทำไป
!!!!!!!
แต่คุณพ่อครับ ผมรักน้องเรนจริงๆนะครับ
อย่ามาเรียกฉันว่าพ่อ ฉันจำไม่ได้ว่ามีลูกชายเป็นเกย์
!!!!!!
แล้วคุณพ่อพี่ซีก็เดินออกไปข้างนอกบ้านก่อนจะตามด้วยเสียงรถยนต์แล่นออกไป
“ไม่เป็นไรนะครับพี่ซี” ผมพูดพลางมองร่างสูงที่ดูเศร้าเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรครับที่รัก ผมสบายดี” พี่ซีพูดพลางจับมือผมเบาๆ ก่อนจะหันหน้ามามองผมด้วยสายตามุ่งมั่น “ถึงแม้ตอนนี้คุณพ่อจะไม่ยอมรับพวกเรา แต่อีกหน่อยก็ไม่แน่ ฉะนั้นพวกเรามาพยายามด้วยกันเถอะนะครับที่รัก”
“ครับพี่ซี!

เพราะด้วยเหตุนี้พี่ซีก็เลยขับรถพาผมกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านก่อนจะพากลับมาบ้านพี่ซีอีกครั้ง แน่นอนว่าการมานอนค้างบ้านพี่ซีครั้งนี้ผมได้ขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่แล้ว ซึ่งท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังพูดอวยพรให้ผมทำภารกิจ(?)เอาใจคุณพ่อพี่ซีให้สำเร็จอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับไปถึงบ้านพี่ซี ผมก็เลยบอกให้พี่ซีช่วยขับรถแวะห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของไปทำให้คุณพ่อพี่ซีได้ทาน
ที่รักทำอาหารเป็นด้วยเหรอครับนี่คืออีกเรื่องที่ผมไม่เคยบอกให้พี่ซีรู้
ครับ พอดีคุณแม่ได้สอนเอาไว้ผมพูดตอบในขณะที่เลือกซื้อผักไปด้วยพร้อมกัน ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว รินก็ทำเป็น คุณแม่บอกว่าถึงจะเป็นผู้ชาย ก็ควรมีวิชาติดตัวเอาไว้ ไปอยู่ไหนจะได้สบาย ทำอาหารกินเองได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
เหรอครับ แบบนี้ผมก็ไปพูดใครต่อใครได้ว่าได้เมียดีทำอาหารเป็น อุ๊ก พี่ซีพูดไม่ทันจบก็โดนผมต่อยท้องเบาๆด้วยความหมั่นไส้
ว่าแต่คุณพ่อพี่ซีชอบทานอาหารอะไรเหรครับ ผมจะได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่
อืม ยังไงก็ได้ครับที่รัก เพราะคุณพ่อของผมทานได้หมด พี่ซีพูดพลางมุ่นคิ้ว จะว่าไปช่วงนี้คุณหมอได้สั่งให้คุณพ่อผมเน้นทานแต่ผัก เพราะร่างกายจะได้แข็งแรง ผมว่าที่รักน่าจะทำสุกี้ดีกว่านะครับ
สุกี้งั้นเหรอ ก็ดีเหมือนกันแฮะ
แล้วผมก็เลือกซื้อผักซื้อเนื้อโดยมีพี่ซีช่วยเข็นรถเข็นตามหลังมาด้วย เมื่อเรียบร้อยแล้วพี่ซีก็ขับรถพาผมกลับบ้านของพี่ซี แน่นอนว่าคุณแม่ของพี่ซีกับยัยดีถึงกับแปลกใจเมื่อผมเอ่ยปากขอยืมครัวเพื่อทำอาหารให้พวกเขาทาน
“แน่ใจเหรอว่าทำได้นะ” ยัยดีถามด้วยลังเล พลางมองผักที่ผมกำลังแกะเตรียมล้างอยู่
“แน่ใจสิ”
“ให้ผมช่วยไหมครับที่รัก”
“ก็ดีเลยฮะ งั้นพี่ซีช่วยล้างผักตรงนี้ให้ผมแล้วกัน เดี๋ยวผมจะไปหมักเนื้อก่อน” ผมบอกก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงล้างผักไป ส่วนตัวผมเองก็หันไปแกะเนื้อออกจากถุง แต่ก็ไม่ลืมที่จะเหลือบมองพี่ซีว่าอีกฝ่ายล้างผักเป็นหรือเปล่า ซึ่งบอกตามตรงเลยครับว่าพี่ซีไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง เมื่อเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้วผมก็ลงมือต้มทันที ไม่นานนักสุกี้ที่ผมตั้งใจทำสุดฝีมือ (ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้) ก็เสร็จภายในเวลารวดเร็ว “อืมใช้ได้ พี่ซีฮะ พี่ลองชิมดูหน่อยสิว่ามันใช้ได้ไหม”
ผมพูดพลางตักน้ำซุปให้ร่างสูงได้ชิม ซึ่งอีกฝ่ายก้มหน้าซดน้ำซุปจากช้อนที่ผมตักให้ ก่อนจะเงยหน้ายิ้มแป้นยกนิ้วโป้งให้กับผม
“อร่อยมากเลยครับที่รัก รสชาติกลมกล่อมใช้ได้เลย” แล้วพี่ซีก็อาสายกหม้อขึ้นไปวางบนโต๊ะอาหารที่ห้องอาหารทันที ส่วนพวกน้ำจิ้มผักหรือเนื้อผมขนตามไปทีหลัง (มีพวกป้าแม่บ้านช่วยยกด้วยนะครับ เพราะมันเยอะจัด) แต่ในขณะที่ผมกำลังยกผักออกไป ผมก็เห็นพี่ซีพูดกับคุณพ่อเสียงดังลั่นบ้าน “มันจะมากเกินไปแล้วนะครับ พวกผมอุตส่าห์ลงมือทำ แต่คุณพ่อคิดจะออกไปทานข้าวนอกบ้าน!
“ฉันไปทานข้างนอกมันหนักหัวใครรึไง ฮึ สุกี้มันก็แค่ของพื้นๆกระจอกๆ ฉันทานไม่ลงหรอก”
!!!!!!!
แค่คำสองคำทำเอาผมถึงกับน้ำตาร่วง
“มันจะมากไปแล้วนะครับคุณพ่อ” แต่คุณพ่อพี่ซีไม่ฟัง กลับเหล่มองผมด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะเดินออกไปนอกบ้านอย่างไม่แยแส “คุณพ่ออย่าหนีสิครับ คุณพ่อ ฟังผมก่อน คุณพ่อ อ๊ะ ที่รัก มันไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นนะ พอดีพ่อของผม...”
“ไม่เป็นไรครับพี่ซี ผมได้ยินหมดแล้ว” ผมพูดพลางยกมือปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก

ถึงยกแรกจะแพ้ แต่ไม่เป็นไร เพราะยกต่อไปยังมีอยู่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น